ฟีเจอร์
Kill switch และแอปคุ้มกัน

การตัดการเชื่อมต่อ VPN

เลี่ยง IP ที่พักรั่วเมื่อ VPN ตัดการเชื่อมต่อ

ด้วยฟีเจอร์ VPN Kill Switch, Astrill จะหยุดส่งหรือรับการจราจรอินเทอร์เน็ตจากและไปยังอุปกรณ์ของคุณเมื่อการเชื่อมต่อหลุด

อะไรทำให้ VPN ตัดการเชื่อมต่อ?

โดยทั่วไป Astrill VPN เชื่อถือได้อย่างมาก และมันจะทำงานตามที่คาดหวังไว้ แต่อย่างไรก็ตามในบางครั้งอาจเกิดปัญหาทางเทคนิคบางประการได้เนื่องจากการเชื่อมต่อ VPN ของคุณตัวใดตัวหนึ่งอาจจะหลุด

เราเตอร์/ไฟร์วอลล์ที่ใช้

หากคุณได้ติดตั้งซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย เช่น โปรแกรมป้องกันไวรัส ไฟร์วอลล์ หรือโปรแกรมคล้ายกันไว้ มันอาจทำให้การเชื่อมต่อ VPN ของคุณหลุดได้ คุณอาจแก้ปัญหาได้โดยการสร้างข้อยกเว้นสำหรับ VPN จากการตั้งค่าซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยของคุณ

อินเทอร์เน็ตไม่สม่ำเสมอ

ควรจำไว้ว่าการเชื่อมต่อ VPN ของคุณจะแรงพอ ๆ กับสัญญาณอินเทอร์เน็ตของคุณ หากอินเทอร์เน็ตของคุณไม่เสถียร การเชื่อมต่อ VPN ของคุณจะหลุดได้ นี่เกิดขึ้นบ่อยครั้งหากคุณใช้ Wi-Fi สาธารณะเนื่องจากมีการโหลดจำนวนมากบนเราเตอร์ทำให้เกิดการบริการชะงัก

VPN โปรโตคอล

ขึ้นอยู่กับที่ตั้ง ประเภทการเชื่อมต่อ องค์ประกอบโปรโตคอล ISP บางรายการที่อาจเสถียรน้อยกว่าตัวอื่น ๆ (UDP กับ TCP, StealthVPN กับ Openweb,...) หาก VPN ทำให้เกิดปัญหาตรวจดูว่ามันทำงานบนโปรโตคอลที่เหมาะสมหรือไม่

ทำไมฉันต้องใช้ VPN Kill Switch?

ฟีเจอร์ Kill Switch เป็นฟีเจอร์ที่ต้องมีสำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ใช้บริการ VPN เพื่อเก็บข้อมูลระบุตัวตนและกิจกรรมออนไลน์ของตนไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด ไว้ใจได้อย่าง Astrill VPN เป็นไปได้ที่อาจตามตัวเราได้และการเชื่อมต่ออาจหลุดได้จากเหตุผลทางเทคนิค ด้วยความผิดพลาดชั่วคราวนี้คุณจึงไม่อาจเสี่ยงที่จะไม่มี kill switch VPN ได้

หากคุณใช้ซอฟต์แวร์ torrent ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์หรือสื่อ คุณต้องคิดถึงการมี kill switch สำหรับการใช้ VPN การไม่มี kill switch อาจทำให้แฮกเกอร์ ISP และรัฐเห็นตัวตนและกิจกรรมบนอินเทอร์เน็ตของคุณได้

แพลตฟอร์มใดบ้างที่รองรับ Kill Switch?

มีการเตรียมฟีเจอร์ตัดการเชื่อมต่อ Astrill VPN ไว้บนแอปเดสก์ท็อป

Windows

MacOS

Linux

แอปคุ้มกัน VS Kill switch

Kill Switch กลายเป็นฟีเจอร์ทั่วไปของ VPN เราได้เตรียมเวอร์ชันปรับปรุงสำหรับลูกข่าย Windows – เราเรียกว่า แอปคุ้มกัน ความต่างสำคัญคือแอปคุ้มกันทำให้คุณบล็อกแอปที่ระบุเฉพาะ จากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้เท่านั้น ในขณะที่แอปอื่น ๆ ยังทำงานได้ปกติหากตัดการเชื่อมต่อ VPN นี่มีประโยชน์มากเมื่อคุณไม่ต้องการให้ IP ถูกเปิดเผย (เช่น แอป BitTorrent ฟอรั่มและแชทออนไลน์) ในขณะที่คุณต้องการรักษาการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกับแอปอื่น ๆ ไม่ว่าจะผ่าน VPN หรือผ่าน IP ที่อยู่อาศัย แอปคุ้มกันยังทำงานได้แม้เมื่อแอป Astrill เดสก์ท็อปไม่ได้เปิดใช้งาน และเปิดใช้งานอัตโนมัติเมื่อระบบเริ่มทำงาน